พายุไต้ฝุ่นดิจิทัล มาแน่ มาจริง แต่ละธุรกิจพร้อมรับมือมากแค่ไหน

ถ้าการทำธุรกิจของคุณยังเป็นการพึ่งพายอดขายด้วยวิธีการเดิม ๆ หรือแนวทางแบบเดิม รับรองว่าอีกไม่ช้าจะโดนธุรกิจใหม่เข้ามา Disrupt อย่างแน่นอน

ทุกวันนี้เราคงเห็นฝ่ายบริหาร รวมถึงทีม Marketing ต่างเร่งประชุมเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการคิด Campaign หรือ Promotion ที่แปลกใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ยังพยายามสรรหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อหวังจะเพิ่มกำไรให้กับบริษัทอีกด้วย ดังนั้นเราจะเห็นว่า หลายบริษัทได้นำเข้าเครื่องจักร หรือแอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในบริษัทมากมายเต็มไปหมด แต่ผลที่ได้คือ พนักงานในบริษัทไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงนั้น ๆ ได้ จึงทำให้เทคโนโลยีที่ลงทุนไปนั้นไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

ดังนั้น ทีมบริหารต้องคิดให้รอบด้าน โดยเฉพาะการนำ Technology เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ควรมองว่า technology เป็นเพียง Function ของการทำงานเท่านั้น แต่ควรนำสิ่งนี้เข้ามาคิดอยู่ในระบบองค์รวม รวมถึงทิศทางของบริษัทด้วย

และยิ่งไปกว่านี้ หลายคนไม่เข้าใจว่า แท้จริงแล้วเราต้องการเทคโนโลยีไปเพื่อสิ่งใด เพราะบางครั้งอาจต้องการแค่เทคโนโลยีใหม่ และทันสมัยที่สุด แต่กลับไม่สร้างสร้างมูลค่าใด ๆ ให้กับบริษัทเลย อีกทั้งยังเป็นการสร้าง Waste ที่เสียทั้งกำลัง และเวลาอีกด้วย เพียงแต่เรามองไม่เห็นเท่านั้นเอง มี Project มากมายผุดขึ้นมาเพื่อบรรลุจุดประสงค์บางอย่าง และมีการทำซ้ำในขั้นตอนเดียวกันในแต่ละ Project ซึ่งทำให้เกิด Waste ขึ้นโดยใช่เหตุ หรือแม้แต่การสร้างเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อหวังจะนำมาใช้กับธุรกิจ แต่เมื่อสร้างเสร็จแล้วกลับไม่มีคนใช้งาน แถมพอคนสร้างย้ายงาน หรือธุรกิจปรับเปลี่ยนไป ก็ใช้งาน Product นั้นไม่ได้อีกแล้ว แล้วเวลาที่เสียไปล่ะ กำลังแรงงานที่ทุ่มเทลงไป สูญเปล่า ทำไมพวกเราถึงต้องสร้าง Waste เหล่านี้กัน การสร้าง Product เหล่านี้ขึ้นมาเปรียบเสมือน ผลิตแก้วพลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง กลายเป็นขยะที่กองสูงขึ้น เพียงแต่ขยะจาก Project เหล่านี้เรามองไม่เห็น ไม่เห็นว่ามันกองทับกันขนาดไหน เพราะไม่เห็นจึงคิดว่าไม่เป็นไร

Date : 27/09/2019